1. รูปแบบการประกวดมารยาทไทยในปี 2565 เป็นอย่างไร
โครงการฯ คำนึงถึงความปลอดภัยของครูและผู้เข้าประกวดและการเปลี่ยนรูปแบบการประกวดเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกวด จึงจัดประกวดรอบคัดเลือกในรูปแบบออนไลน์ ครูและนักเรียนสามารถเข้าร่วมประกวดตามวันและเวลาที่กำหนด โดยแบ่งตามภูมิภาค และทำการบันทึกคลิปพร้อมส่งเข้าระบบตามวัน-เวลาที่กำหนด โดยสามารถบันทึกคลิปได้ที่โรงเรียน หรือ สถานที่ที่สะดวก ด้วยการจำนวนคนเข้าร่วมไม่เกิน 5 คนต่อทีม (ผู้ประกวด 4 คน ผู้บันทึกภาพ 1 คน)
2. ปีการศึกษา 2565 เปิดการประกวดมารยาทไทย กี่ระดับ
ปีการศึกษา 2565 เปิดการประกวดมารยาทไทย ระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.1 - ป.3)ระดับประถมศึกษาตอนปลาย (ป.4 - ป.6) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1 – ม.3) และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4 - ม.6 และ ปวช.) รวมทั้งสิ้น 4 ระดับ
3. ในปี 2565 โรงเรียนสามารถส่งผู้ประกวดมารยาทไทยได้ระดับละกี่ทีม
เพื่อเป็นการขยายโอกาสและการมีส่วนร่วมของเยาวชนเพิ่มมากขึ้น โครงการฯ จึงขยายโอกาสให้สถาบันการศึกษาส่งตัวแทนของสถาบันการศึกษาได้ระดับละ 3 ทีม จากเดิม 1 ทีม และการประกวดมารยาทไทย สำหรับเยาวชนผู้บกพร่องทางการได้ยิน (ระดับประถม ป.1 - ป.6) สามารถส่งได้ 3 ทีม จากเดิม 1 ทีม เช่นกัน
4. ทำไมครูถึงต้องกดปุ่มยินยอมเปิดเผยข้อมูลในใบสมัครแล้วถึงทำการสมัครได้
วัตถุประสงค์การเก็บข้อมูลในใบสมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อการติดต่อสมาชิกในการแจ้งข้อมูล ข่าวสาร ด้านต่างๆ เกี่ยวกับโครงการฯ การประกาศรายชื่อและการใช้ภาพผู้เข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงการประชาสัมพันธ์โครงการฯ และที่สำคัญทางโครงการฯ ต้องดำเนินการตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเยาวชนที่สมัครเข้าร่วมประกวดในโครงการฯ ขอให้ได้รับการยินยอมให้เข้าร่วมโครงการฯ เป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ปกครอง จึงมีความจำเป็นต้องให้ผู้ปกครองลงนามในใบสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ของเยาวชนทุกคน แล้วครู-อาจารย์ส่งใบสมัครนั้นๆ เข้าระบบการสมัครเข้าประกวด จึงจะถือว่าการสมัครเสร็จสมบูรณ์
5. ถ้าครู-อาจารย์ที่เคยส่งนักเรียนผู้เข้าประกวดคนเดิม จำเป็นต้องส่งใบสมัครในปี 2565 ใหม่หรือไม่
จำเป็นต้องส่งใบสมัครที่มีผู้ปกครองนักเรียนลงนามใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นไปตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และเป็นการส่งใบสมัครปีต่อปี
6. ขั้นตอนครู-อาจารย์สมัครเข้าร่วมโครงการฯ การประกวดมารยาทไทย
7. ถ้าครู-อาจารย์ ไม่แน่ใจว่าเคยสมัครเข้าร่วมโครงการฯ หรือไม่ ต้องทำอย่างไร
ให้กรอกอีเมลในช่องสมัครสมาชิกใหม่ ถ้าอีเมลนั้นครูเคยสมัครเข้าร่วมโครงการฯ มาก่อนแล้ว ระบบจะแจ้งยืนยันว่าเคยสมัครเข้าร่วมโครงการฯ มาแล้วอัตโนมัติ
8. ลืม Password ต้องทำอย่างไร
กรอกอีเมล ครู-อาจารย์ ที่เคยสมัครเป็นสมาชิก -> กดลืม Password -> ระบบจะทำการส่ง Password ไปยังอีเมลของท่าน และครู-อาจารย์สามารถกดลิงค์เข้าสู่ระบบแล้วแก้ Password ใหม่อีกครั้ง
9. หากต้องการ เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขรายชื่อผู้เข้าประกวดและรายชื่ออาจารย์ผู้รับผิดชอบ ต้องทำอย่างไร
ครูสามารถทำได้เมื่อเข้าระบบแล้วให้เลือกใบสมัครที่ต้องการแก้ไข -> กดรายละเอียด -> กดแก้ไขใบสมัคร ->เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขรายชื่อ -> กดบันทึก
10. หากสมัครผิดรุ่นหรือผิดประเภทต้องทำอย่างไร
เลือกใบสมัครที่ต้องการแก้ไข -> กดรายละเอียด -> กดยกเลิกสมัครและทำการกรอกใบสมัครใหม่
11. ครูและนักเรียนที่เข้าประกวดถึงแม้จะไม่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศจะได้รับอะไรบ้าง
ครูและนักเรียนที่เข้าร่วมการประกวดทุกท่านนอกจากจะได้ประสบการณ์การประกวดแล้ว ยังจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากโครงการฯ โดยสามารถพิมพ์ใบประกาศนียบัตรได้เองหลังการประกวดรอบคัดเลือกเสร็จสิ้น จำเป็นต้องตรวจสอบรายชื่อ และตัวสะกดให้ถูกต้อง เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขได้หลังจากพิมพ์ใบประกาศนียบัตรแล้ว
12. ใครเป็นเจ้าของโครงการ เท่อย่างไทย โดย ไฟ-ฟ้า ทีทีบี
มูลนิธิทีทีบี ภายใต้การสนับสนุนหลักจากธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าของ โครงการ เท่อย่างไทย โดย ไฟ-ฟ้า ทีทีบี โดยดำเนินโครงการต่อมาจากโครงการ ธนชาต ริเริ่ม... เติมเต็ม เอกลักษณ์ไทย ของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารนครหลวงไทย และธนาคารศรีนคร ซึ่งในปี 2565 นี้จัดเป็นครั้งที่ 50 แล้ว
13. สาเหตุที่ไม่มีการประกวดระดับอุดมศึกษา
ด้วยมูลนิธิทีทีบี มุ่งจุดประกายให้เยาวชน ระดับประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษา อายุ
6 - 18 ปี เป็นเยาวชนกลุ่มหลักเพื่อเพิ่มโอกาสและสร้างฐานของกลุ่มนี้ให้ได้มากขึ้น โครงการฯ ต้องขออภัยและขอขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงที่สนใจ ทั้งนี้หากมีการขยายกลุ่มเป้าหมายไปจนถึงนักศึกษาระดับอุดมศึกษา โครงการฯ จะประกาศให้ทราบในโอกาสต่อไป